วิธีการสร้างความปลอดภัยใน การทำงานกับเครื่องจักร ต้องทำอย่างไร
หากพูดถึง การทำงานกับเครื่องจักร เครื่องจักร เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สำหรับทำงานมีทั้งแบบอัตโนมัติและต้องใช้คนในการควบคุม โดยมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการออกแบบ เพื่อให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน เราได้ยินคำว่าเครื่องจักรอยู่เป็นประจำ แต่เรารู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้ว “นิยามของคำว่าเครื่องจักร คืออะไร”
เครื่องจักร คืออะไร
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564 ได้ให้คำนิยามไว้ว่า “เครื่องจักร” หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับก่อกำเนิดพลังงาน เปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก๊าซ แสงอาทิตย์ ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลัง รอก สายพาน เพลา เฟือง หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งเครื่องมือกล
อันตรายจากการทำงานกับเครื่องจักร
การทำงานกับเครื่องจักร อาจก่อให้เกิดอันตรายได้หากไม่มีการป้องกันหรือมาตรการที่เหมาะสม ในการทำงานกับเครื่องจักรผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น อันตรายจากเครื่องจักร ได้แก่
- อันตรายทางกายภาพ : เครื่องจักรมีส่วนประกอบที่เคลื่อนไหวได้ เช่น ใบมีด เฟือง สายพาย และส่วนประกอบอื่นๆ ที่อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บหากใช้งานไม่ถูกต้อง อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดจากเครื่องจักร ได้แก่ การถูกบาด ตัด เฉือน หรือถูกทับ
- อันตรายจากไฟฟ้า : เครื่องจักรส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการทำงาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากระบบไฟฟ้าของเครื่องจักรเกิดข้อบกพร่อง เช่น ไฟฟ้าช็อตอาจทำให้เกิดแผลไหม้ กล้ามเนื้อกระตุก หรือถึงขั้นเสียชีวิต
- อันตรายจากไฟไหม้ : เครื่องจักรบางชนิดก่อให้เกิดความร้อนหรือประกายไฟ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้ได้หากใช้งานไม่ถูกต้องหรือไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- อันตรายจากเสียง : เครื่องจักรบางชนิดก่อให้เกิดเสียงดังในขณะที่มีการทำงาน เช่น เครื่องปั๊ม ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อระบบการได้ยินของผู้ปฏิบัติงาน หากไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสม
- อันตรายจากสารเคมี : เครื่องจักรบางชนิดใช้สำหรับผลิตสารเคมีหรือต้องใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบในการผลิต ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากสูดดม กลืนกิน หรือสัมผัสกับผิวหนัง
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการทำงานกับเครื่องจักร ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามมาตรการและขั้นตอนการทำงานอย่างเคร่งครัด และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องจักรอยู่ในสภาพที่ดีและได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม
สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ
สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Action) และสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Condition) ในการทำงานกับเครื่องจักรก็เช่นกัน อุบัติเหตุจากเครื่องจักรสามารถเกิดขึ้นเสมอ หากใช้งานเครื่องจักรไม่ถูกวิธี หรือเครื่องจักรไม่ได้รับการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่เหมาะสม สาเหตุทั่วไปของการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่
- การใช้งานเครื่องจักรโดยไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
- ไม่ปฏิบัติตามมาตรการหรือขั้นตอนด้านความปลอดภัย
- การใช้เครื่องจักรที่ไม่ได้รับการซ่อมแซมหรือไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- การดัดแปลงหรือแก้ไขเครื่องจักรที่ส่งผลให้ความปลอดภัยของเครื่องจักรลดลง
- หยอกล้อเล่นกันขณะปฏิบัติงาน
- ไม่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลขณะที่ปฏิบัติงาน
- การใช้สารเสพติดหรือสิ่งมึนเมา
อุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงานกับเครื่องจักรอาจส่งผลร้ายแรง ได้แก่ การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ความเสียหายต่อ ทรัพย์สิน และการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต ผู้ปฏิบัติงานต้องตระหนักถึงสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและดำเนินการเพื่อป้องกันเพื่อไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น
การป้องกันอันตรายในการทำงานกับเครื่องจักร
การทำงานกับเครื่องจักรมีอันตรายแฝงอยู่เสมอ สิ่งสำคัญคือ ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ ต่อไปนี้คือ ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักร
- สวมอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตลอดเวลาที่ทำงาน เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย หมวกนิรภัย รองเท้าพื้นยางหุ้มส้น และอุปกรณ์ป้องกันชนิดอื่นตามความเหมาะสมกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
- ปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- รักษาพื้นที่ทำงานให้สะอาดและปราศจากสิ่งที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายอยู่เสมอ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการทำงานกับเครื่องจักรและทำการตรวจสอบเครื่องจักรก่อนเริ่มการทำงานเป็นประจำทุกวัน
- รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวของเครื่องจักร
- ปิดและถอดปลั๊กเครื่องจักรก่อนดำเนินการซ่อมบำรุงหรือทำความสะอาดทุกครั้ง
- ห้ามถอดการ์ดป้องกันหรืออุปกรณ์นิรภัยออกจากเครื่องจักร
- ห้ามเอื้อมมือเข้าไปในเครื่องจักรหรือรอบๆ เครื่องจักรที่กำลังเคลื่อนที่
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อทำงานกับเครื่องจักรกลหนัก และขอความช่วยเหลือหากจำเป็น
- ห้ามใช้เครื่องจักรหากมีอาการเหนื่อยล้าหรืออยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสิ่งเสพติดหรือแอลกอฮอล์
การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยข้างต้นสามารถป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ทำงานกับ เครื่องจักร ผู้ปฏิบัติงานต้องตระหนักอยู่เสมอว่าหากไม่ทำตามขั้นตอนหรือมาตรการด้านความปลอดภัยที่กำหนดไว้ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE)
อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือที่เราเรียกกันว่า PPE เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีเมื่อทำงานกับ เครื่องจักร นอกจากสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทำงานแล้ว PPE ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน ซึ่งต่อนี้เป็นชนิดของ PPE เมื่อต้องทำงานตามลักษณะงานต่อไปนี้
- งานเชื่อมหรืองานตัดชิ้นงานด้วยไฟฟ้า ก๊าซ หรือพลังงานอื่น ให้สวมถุงมือหนัง หรือถุงมือผ้า กระบังหน้าลดแสงหรือแว่นตาลดแสง รองเท้านิรภัย และแผ่นปิดหน้าอกกันประกายไฟ และต้องเป็นชนิดที่ป้องกันประกายไฟหรือความร้อนได้ดี
- งานลับ ฝน หรือแต่งผิวโลหะด้วยหินเจีย ให้สวมแว่นตาชนิดใสหรือหน้ากากชนิดใส ถุงมือผ้า และรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
- งานกลึงโลหะ งานกลึงไม้ งานไสโลหะ งานไสไม้ หรืองานตัดโลหะ ให้สวมแว่นตาชนิดใสหรือหน้ากากชนิดใส ถุงมือผ้า และรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
- งานปั๊มโลหะ ให้สวมแว่นตาชนิดใสหรือหน้ากากชนิดใส ถุงมือผ้า และรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
- งานชุบโลหะ ให้สวมถุงมือยาง และรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
- งานพ่นสี ให้สวมที่กรองอากาศสำหรับใช้ครอบจมูกและปากกันสารเคมี ถุงมือผ้า และรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
- งานยก ขนย้าย หรือติดตั้ง ให้สวมหมวกนิรภัย ถุงมือผ้า และรองเท้านิรภัย
- งานควบคุมเครื่องจักร ให้สวมหมวกนิรภัยและรองเท้าพื้นยางหุ้มส้น
นอกจากอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามที่กำหนดแล้ว อาจให้สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยอื่นเพิ่มเติมตามลักษณะงานและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และต้องควบคุมดูแลให้สวมใส่ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน
สรุป
การทำงานกับเครื่องจักรอาจเกิดอันตรายได้หากผู้ปฏิบัติงานไม่ทำตามขั้นตอนและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดในการทำงานกับเครื่องจักรนอกจากผู้ปฏิบัติงานต้องผ่านการฝึกอบรมการทำงานกับเครื่องจักรแล้วอย่างปลอดภัยด้วยเช่นกันและสิ่งสำคัญในการทำงานกับเครื่องจักร คือ ผู้ปฏิบัติงานต้องตรวจสอบเครื่องจักรก่อนการใช้งานเสมอเพื่อดูว่าเครื่องจักรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งานหรือไม่