สิ่งที่คุณควรรู้ และอาจจะยังไม่รู้ เกี่ยวกับ รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อรถ EV คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล ซึ่งรถยนต์เหล่านี้จะชาร์จโดยการเสียบรถยนต์เข้ากับแท่นชาร์จ ด้วยสายชาร์จแทนการเติมน้ำมันด้วยหัวจ่าย รถยนต์ไฟฟ้านั้นมีข้อดีมากมายหลายอย่าง
จึงทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ที่กำลังจะมีรถคันแรกกันอย่างแพร่หลาย ในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น ว่ามันมีข้อดีและความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ทำไมนักขับมือใหม่ทั่วประเทศถึงสนใจอยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากัน
ประวัติของ รถยนต์ไฟฟ้า
แนวคิดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีมานานมากๆ แล้ว ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นที่ถูกพูดถึง และเริ่มมีการพัฒนารวมไปถึงระดุมทุนเพื่อสร้างรถยนต์ไฟฟ้ากันไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและเงินทุน ไม่นานรถยนต์ไฟฟ้าก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าและถูกลืมไปอย่างช้าๆ ในช่วงศตวรรษที่ 20 เนื่องจากรถยนต์เครื่องสันดาป และน้ำมันเบนซินที่ราคาไม่ได้แพงอะไรมากมาย รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น
แต่ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้ รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากทั่วโลกกำลังมองเห็นถึงปัญหาของสภาพแวดล้อม และผลกระทบของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปต่อภาวะโลกร้อน ในปี 2022 นี้ รถยนต์ไฟฟ้าจึงกลายเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง อีกทั้งยังมีผู้ผลิตรถยนต์เจ้าใหญ่ที่ลงมาเล่นในตลาดรถไฟฟ้ากันมากขึ้น
ข้อดีของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
- ประหยัดพลังงานมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
- มีต้นทุนในการใช้งานที่น้อยกว่า ทั้งเรื่องของราคาการชาร์จไฟที่ถูกกว่าการเติมน้ำมัน การซ่อมแซม อะไหล่ ที่มีราคาถูกกว่า
- ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม
- มีเสียงที่เงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างมาก เพราะไม่มีการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป
- อัตราเร่งที่นิ่ง ลื่น เหมาะสำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดขับรถ หรือคนที่ชื่นชอบความนุ่มในการขับ ไม่เร็วจนเกินไป ไม่กระชาก แต่ก็ไม่ช้ามาก
- มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า มีโอกาสเสียน้อยกว่า เนื่องจากชิ้นส่วนที่มีการขยับเขยื้อนน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และมีโครงสร้างที่ซับซ้อนน้อยกว่า
ข้อเสียหรือข้อพิจารณาก่อนเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีข้อดีมากมาย แต่แน่นอนว่าข้อเสียก็มีเช่นเดียวกัน หนึ่งในข้อจำกัดใหญ่ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า ก็คือ เรื่องของระยะทางในการใช้งาน ที่ในปัจจุบันนี้รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Tesla นั้นสามารถเดินทางได้เฉลี่ย 500 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับระยะเวลาชาร์จกับไฟบ้านที่ใช้เวลาถึง 15-20 ชั่วโมง จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานเดินทางไกล นอกจากนี้ในประเทศไทยยังหาที่ชาร์จแบตยากมากๆ โดยเฉพาะตามสถานที่ที่ไม่ใช่เมืองหลวง อีกทั้งตัวรถยนต์ไฟฟ้าเองยังมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนอีกด้วย
หลักการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า
- รถยนต์ไฟฟ้านั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เมื่อสตาร์ทรถ ไฟฟ้าจะไหลจากแบตเตอรี่เข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมอเตอร์จะแปลงไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนรถ
- ภายในแบตเตอรี่จะมีเซลล์จำนวนหนึ่งที่เชื่อมต่อกันเพื่อสร้างแรงดันไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ แบตเตอรี่เหล่านี้จะเก็บพลังงานในรูปแบบของพลังงานเคมี ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับรถยนต์นั่นเอง
นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีระบบที่เรียกว่า Onboard Charger ซึ่งจะเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าจากแท่นชาร์จหรือสถานีชาร์จให้แบตเตอรี่สามารถรับได้ โดยจะแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เข้าสู่แบตเตอรี่ และยังมีระบบควบคุมเครื่องชาร์จด้วยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นระบบที่ช่วยจัดการกระบวนการชาร์จเพื่อให้แน่ใจว่าชาร์จได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้ อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะเรียกว่าดูสดใสก็ไม่เกินไปนัก เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ที่ลงมาเล่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น การลงทุนและการผลิตที่มีกำลังมหาศาล เทคโนโลยีที่กำลังเติบโตซึ่งจะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตมีราคาที่ถูกลง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนจึงวิเคราะห์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าอาจจะมาแทนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันในไม่ช้านี้